Skip to content
ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
Siriraj Radiology Department (SIRAD)
Main Menu
เกี่ยวกับ
Menu Toggle
คณะผู้บริหาร
คณาจารย์
Menu Toggle
สาขาวิชารังสีวินิจฉัย
สาขาวิชารังสีรักษา
สาขาวิชาเวชศาสตร์นิวเคลียร์
บุคลากร
Menu Toggle
สาขาวิชารังสีวินิจฉัย
สาขาวิชารังสีรักษา
สาขาวิชาเวชศาสตร์นิวเคลียร์
สำนักงานภาควิชา
วิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม
ประวัติภาควิชารังสีวิทยา
การศึกษา
Menu Toggle
ก่อนปริญญา
Menu Toggle
หลักสูตรแพทยศาสตร์
คณะกรรมการการศึกษาก่อนปริญญา
หลังปริญญา
Menu Toggle
หลักสูตรวุฒิบัตรแพทย์ประจำบ้านและต่อยอด
Menu Toggle
สาขาวิชารังสีวินิจฉัย
สาขาวิชารังสีรักษา
สาขาวิชาเวชศาสตร์นิวเคลียร์
หลักสูตร วท.ม.ฟิสิกส์การแพทย์
คณะกรรมการการศึกษาหลังปริญญา
การประเมินคุณภาพการศึกษา
Menu Toggle
EdPEX
WFME
Menu Toggle
WFME หลักสูตรวุฒิบัตรฯสาขารังสีวิทยาวินิจฉัย
WFME หลักสูตรวุฒิบัตรฯสาขารังสีรักษาและมะเร็งวิทยา
WFME หลักสูตรวุฒิบัตรฯสาขาเวชศาสตร์นิวเคลียร์
กิจกรรมการศึกษา
วิชาการ
Menu Toggle
ประชุมวิชาการ
คณะกรรมการฝ่ายวิชาการภาคฯ
งานบริการ
Menu Toggle
ความรู้สู่ประชาชน
Menu Toggle
ซีเซียม137
การป้องกันอันตรายจากรังสี
VDO ความรู้ทางการแพทย์ด้านรังสีวิทยา
การรับรอง Advanced HA
Menu Toggle
งานพัฒนาคุณภาพ-การบริการทางรังสีวิทยา
QUATRO
QUADNUM
ตารางแพทย์รังสีรักษา
ขั้นตอนการรับบริการ
Menu Toggle
สาขาวิชารังสีวินิจฉัย
สาขาวิชารังสีรักษา
สาขาวิชาเวชศาสตร์นิวเคลียร์
คณะกรรมการฝ่ายพัฒนาคุณภาพภาคฯ
งานวิจัย
Menu Toggle
MOU วิจัย
แหล่งทุนวิจัย
งานบริการด้านวิจัย
กิจกรรม ฝ่ายงานวิจัย
คณะกรรมการฝ่ายวิจัยภาคฯ
กิจกรรมและข่าว
Menu Toggle
ข่าวกิจกรรม
ประกาศ
รางวัล-เกียรติยศ
งานบุคคล
คณะกรรมการฝ่ายป้องกันอันตรายจากรังสี
คณะกรรมการฝ่ายสารสนเทศและนวัตกรรมข้อมูล
คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร
ตำราและหนังสือ
วารสารรังสีวิทยาศิริราช
เอกซเรย์ทั่วไป
พื้นฐานเกี่ยวกับเอกซเรย์
เอกซเรย์เป็นรูปแบบหนึ่งของรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวเคลื่อนระหว่าง 10 – 0.01 นาโนเมตร และมีความถี่ในช่วง 30×10
15
Hz ถึง 30×10
18
Hz ซึ่งมีความยาวคลื่นมากกว่ารังสีแกมมา แต่สั้นกว่ารังสีอุลตราไวโอเล็ต
เอกซเรย์ค้นพบโดย
นายวิลเฮล์มคอนราด แรนเกน
ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 1895 (พ.ศ.2438) ซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนาเป็นภาพเอกซเรย์ทางการแพทย์ อย่างไรก็ตามเอกซเรย์ก็ยังเป็นรังสีที่มีการแตกตัวเป็นประจุ จึงมีอันตรายต่อเซลล์เช่นกัน
ภาพมือและแหวน
เป็นภาพเอกซเรย์ทางการแพทย์ภาพแรก ซึ่งแรนเกนได้ถ่ายภาพมือของภรรยาของเขาไว้เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 1895 และได้ส่งเป็นภาพอวยพรปีใหม่แก่ศาสตราจารย์ ลุดวิก เซนเดอร์ แห่งวิทยาลัยฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยเฟรเบอร์ก ในวันที่ 1 มกราคม 1896
การใช้เอกซเรย์ทางการแพทย์
เมื่อแรนเกนได้ค้นพบว่าเอกซเรย์สามารถถ่ายภาพกระดูกได้ เอกซเรย์ก็ได้รับการพัฒนาในการสร้างภาพทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นสาขาวิชารังสีวิทยาขึ้น โดยมีรังสีเทคนิค (รังสีการแพทย์) เป็นผู้ทำการถ่ายภาพ และรังสีแพทย์เป็นผู้แปลผลภาพทางรังสีนั้นว่ามีพยาธิสภาพอย่างไร
เอกซเรย์มีประโยชน์อย่างมากในการตรวจเกี่ยวกับระบบกระดูก เมื่อเกิดอุบัติเหตุและคาดว่าจะมีกระดูกแตก/หัก การเอกซเรย์จะช่วยแพทย์ในการยืนยันโรคได้ สำหรับการใช้เอกซเรย์เพื่อตรวจเนื้อเยื่อทั่วไปนั้น ได้มีการใช้อย่างแพร่หลาย เช่นการตรวจเอกซเรย์ปอดในการตรวจร่างกายประจำปี ซึ่งภาพเอกซเรย์ปอดสามารถบอกถึงอาการน้ำท่วมปอด ก้อนเนื้อในปอดได้ ส่วนการเอกซเรย์ช่องท้อง ก็สามารถที่จะบอกถึงการอุดตันของลำไส้ การมีลมรั่วอยู่ในช่องท้อง ได้อีกด้วย
ฟลูโอโรสโคปี เป็นอีกรูปแบบหนึ่งในการตรวจอวัยวะที่เป็นเนื้อเยื่อ โดยมีการใช้สารทึบรังสี เช่น แป้งแบเรียมซัลเฟต สารประกอบไอโอดีน เพื่อทำการตรวจระบบทางเดินอาหาร ระบบสืบพันธุ์สตรี ระบบประสาทไขสันหลังและระบบข้อต่อต่างๆ
ภาพทางการแพทย์อีกอย่างหนึ่งในการประยุกต์ใช้เอกซเรย์ ก็คือการพัฒนาระบบการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การตรวจด้วยเครื่องคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรืออัลตราซาวน์ด อย่างไรก็ตามเอกซเรย์ก็ได้รับการยืนยันจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาว่าเป็นสารก่อมะเร็งเช่นกัน
การสร้างภาพของระบบหลอดเลือด ซึ่งรวมถึงหลอดเลือดแดง หลอดเลือดดำต่างๆ นั้น มีการเรียกเฉพาะว่า รังสีวิทยาหลอดเลือด ซึ่งใช้หลักการของการลบภาพซ้ำ มาใช้สร้างภาพ โดยทำการถ่ายภาพบริเวณที่ต้องการก่อน จากนั้นฉีดสีผ่านหลอดเลือดโดยตรงและทำการถ่ายภาพที่บริเวณเดียวกัน จากนั้นนำภาพที่ได้มาซ้อนทับกัน ส่วนที่เหมือนกันก็จะหายไป ทำให้เหลือภาพเส้นเลือดเพียงอย่างเดียว ซึ่งผู้ที่ทำการตรวจนั้นจะเป็นสาขาเฉพาะเรียกว่า แพทย์รังสีร่วมรักษา หรืออาจเป็นศัลยแพทย์ระบบหลอดเลือดก็ได้ ซึ่งจะทำการเปรียบเทียบภาพ และประเมินความผิดปกติ หรือโรคหลอดเลือดต่างๆ
ภาพเอกซเรย์กระดูกสะโพก
ภาพเอกซเรย์กระดูกสันหลังระดับเอว
ภาพเอกซเรย์กระดูกสันหลังระดับเอว
ภาพเอกซเรย์ปอด
ภาพเอกซเรย์กะโหลกศีรษะหน้าตรง
เทคนิคในการสร้างภาพเอกซเรย์
เพื่อการสร้างภาพเอกซเรย์ จะมีการปล่อยรังสีออกเป็นช่วงๆ ผ่านร่างกายผู้ป่วยไปยังแผ่นฟิล์มที่อยู่ด้านหลัง กระดูกจะดูดซับพลังงานไว้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า photoelectric เอกซเรย์ที่ไม่ได้ถูกดูดกลืนก็จะผ่านไปกระทบกับฟิล์ม เกิดเป็นส่วนที่มีสีดำบนภาพฟิล์ม ประสิทธิภาพของการสร้างเอกซเรย์นั้นเกิดน้อยกว่า 2% เนื่องจากพลังงานส่วนใหญ่ถูกใช้ทำให้เกิดความร้อนแก่หลอดเอกซเรย์
การรับภาพเอกซเรย์มีวิธีการหลากหลายอย่าง ระบบที่รู้จักกันได้แก่ระบบการใช้ฟิล์มและคาสเซ็ท ซึ่งช่วยจับเอกซเรย์และสร้างเป็นภาพ การเอกซเรย์ลงบนแผ่นฟิล์มโดยตรงจะต้องใช้เอกซเรย์ปริมาณมาก ดังนั้นจึงมีการพัฒนาระบบแผ่นเรืองแสงมาช่วยขยายสัญญาณแสง และลดปริมาณรังสีที่จะต้องใช้ลง เมื่อมีการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์และระบบดิจิตอล ก็ได้มีการพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลแทนที่ระบบฟิล์ม อย่างไรก็ตามระบบฟิล์ม-คาสเซ็ทก็ยังใช้ในแวดวงอุตสาหกรรมอื่นอยู่ การพัฒนาของระบบภาพรังสีคอมพิวเตอร์และภาพรังสีดิจิตอล ทำให้มีความสะดวกในการใช้สถานที่ และการรายงานผล ซึ่งสามารถกระทำได้ในทุกที่ที่ระบบเชื่อมโยงไปถึง สำหรับประเด็นการประเมินเนื้อเยื่อนั้น สารทึบรังสีซึ่งเป็นองค์ประกอบของธาตุอะตอมหนัก ซึ่งสามารถกั้นเอกซเรย์ได้ได้ถูกนำมาใช้ และมีการพัฒนาให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด อย่างไรก็ตามภาวะเสี่ยงต่อการแพ้สารทึบรังสีก็ยังเป็นที่สนใจอยู่